Last updated: 23 พ.ค. 2565 | 7397 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 23 พ.ค.65 นายสุทธิชัย อายุ 29 ปี อยู่ บ้านบวกอ่าง ต.โคกใหญ่ อ.ท่าลี่ จ.เลย เข้าพิธีแต่งงานกับแม่หญิงลาว ลูกติด อายุ 23 ปี เมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 ได้แต่งงาน จนตกดึกเข้าเรือนหอกลับถูกกีดกันไม่ให้ร่วมหลับนอน วันรุ่งขึ้นหอบสินสอดพร้อมซองแต่งงานหนีหายเข้ากลีบเมฆ
นายสุทธิชัย เล่าว่า ตนเองมีอาชีพทำสวนยางและปลูกพืชไร่ เรียนจบชั้นประถม 6 เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว เมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 นางสี อุดทุม ราษฎรชาวลาว พร้อมลูกชายวัย 5ขวบ ที่เลิกร้างกับสามี มาเยี่ยมญาติในหมู่บ้าน ทางครอบครัวเห็นว่าตนเองไม่มีครอบครัว จึงอยากให้แต่งงานกับนางสี ครั้งแรกเห็นก็หลงรักและชอบแล้ว จนมีผู้ใหญ่มาทาบทามให้แต่งงาน จึงตัดสินใจแต่งงานด้วย นางสีเรียกสินสอดเป็นเงินสด 25,009 บาท ตกลงแต่งงานจัดเรียบง่ายในครอบครัว ประมาณ 50 คน เมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 ที่บ้านหมดเงินค่าสินสอดและอาหาร เครื่องดื่มไปประมาณ 50,000 บาท หลังเสร็จพิธีแต่งงาน ตกดึกเข้าเรือนหอ แต่นางสีพาลูกชายมานอนในห้อง ให้นอนตรงกลางกั้นระหว่างตนเองและนางสี จนลูกนางสีหลับไป จึงเอยปากขอหลับนอน และเอาแขนมากอดนางสี แต่ถูกปฏิเสธ บอกว่าพรุ่งนี้เช้าต้องตื่นแต่เช้าไปทำธุระที่ อ.ท่าลี่ แต่มาทราบภายหลังว่า นางสีพร้อมลูกชายเหมารถจาก อ.ท่าลี่ไปส่งที่ท่ารถ บขส.อ.เมืองเลย พยายามติดต่อ โทรไปติดแต่ไม่รับสาย จึงรู้ว่าถูกนางสีหลอก จึงเข้าแจ้งความกับ พงส.สภ.ท่าลี่
สาเหตุที่ตนเองแต่งงานกับนางสี เพราะค่าสินสอดถูก แต่งสาวไทยในหมู่บ้านต้องใช้เงินเป็นแสน และเข็ดจนตายแล้วไม่ขอแต่งกับสาวลาวอีกต่อไป และฝากไปยังนางสีอย่าไปทำกับใครอีก อย่าไปหลอกเขา เงินทองหามาด้วยความลำบาก ถ้าจะเอาเงินมาคืนก็พร้อมและถอนแจ้งความ
นางฮัก แม่ของนายสุทธิชัย เล่าว่า ตนเองเสียใจมากที่นางสีมาหลอกลูกชายของตนเอง และเป็นลูกชายคนเดียวของที่บ้าน ที่อยากให้ลูกชายมีครอบครัว และขอร้องนางสีอย่าไปหลอกใครอีกเลย