เขื่อนไชยะบุลีผลกระทบต่อชาวประมงลำน้ำโขง อ.เชียงคาน

Last updated: 13 พ.ค. 2564  |  1081 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ชาวประมง อ.เชียงคาน ได้รับผลกระทบจากการหาปลาในลำน้ำโขง หาปลาได้ตัวเล็ก ปลาบึก ปลาตัวใหญ่ ไม่เห็นมานานกว่า 10 หลังมีการสร้างเขื่อนไชยะบุลี

วันที่ 13 พ.ค.64 แม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำสายเลือดหลักของหลายประเทศ ที่ไหลผ่านจากประเทศเพื่อนบ้านมาถึง อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม จ.เลย จนน้ำแห้งขอด เห็นสันดอนทรายยาวเป็นกิโลเมตร และเกาะแก่งโผล่กลางแม่น้ำโขงที่แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย บางพื้นที่สามารถเดินข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว ซึ้งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 10 ปี จากการสร้างเขื่อนไชยะบุลี สปป.ลาว ทำให้ได้ผลกระทบจากการทำประมงในลำน้ำโขง ซึ้งเป็นวิถีชีวิตของชาวประมงที่อาศัยกินอยู่ในแพ ที่ประกอบอาชีพประมงมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย จนมาถึงรุ่นลูกต้องเปลี่ยนไป

นายพงษ์พัฒน์ แก้วพิลา ชาวประมงลำน้ำโขง แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน เล่าว่า ตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนไชยะบุรี ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการทำประมงริมแม่น้ำโขง ซึ้งแต่ก่อนยังไม่มีการสร้างเขื่อน ยังจับปลาตัวขนาดใหญ่ได้ แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้วนานกว่า 10 ปี ปลาที่เคยอุดมสมบูรณ์ให้ชาวประมงจับก็หายไป เหลือแต่ปลาตัวเล็ก ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน และฤดูวางไข่ของปลา ชาวประมงหาปลาไม้ได้เยอะหรือได้ตัวใหญ่เหมือนเช่นเคย ได้แต่ปลาตัวเล็ก เช่นปลาเนื้ออ่อน ปากเกร็ด และปลาชนิดอื่นๆ ส่วนปลาบึกไม่เคยจับได้มานานนับ 10 ปี ส่วนผลกระทบที่ได้ทางตรงคือระดับแม่น้ำโขงขึ้นลงไม่ปกติ และเป็นช่วงฤดูวาง ปลาวางไข่ก็จะหลงฤดู  สาเหตุจากการปล่อยน้ำที่เขื่อนไชยบุรี บางวันก็ปล่อยมาเยอะบางวันก็ปล่อยมันน้อย ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นลงไม่แน่นอน



นายธัชกร อ้วนแก้ว อายุ 57 ปี เราชานุการชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยว อ.เชียงคาน เปิดเผยว่า หลังจากมีการสร้างเขื่อนไชยบุรี ทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนไป หลังจากที่สร้างเขื่อนไชยบุรีขึ้นมาสายน้ำไม่มีปริมาณที่มากขึ้นเหมือนเดิม แต่กลับลดน้อยลง ปัญหาสำคัญคือการขาดธาตุอาหารในแม่น้ำ ซึ่งตอนนี้ฝนตกน้ำจากแม่น้ำสาขาย่อย ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำมาให้น้ำขุ่น ทำให้ปลาว่ายขึ้นมามีปริมาณมันจะน้อยลง ปลาตัวใหญ่ๆหายไป ปลาหมึก ปลาเริง ที่เคยจับได้ตัวใหญ่ๆ ก็หายไป



ปัญหาเรื่องการท่องเที่ยว ที่เคยได้สัมผัสแม่น้ำและกิจกรรมทางน้ำลดน้อยลง เขื่อนไชยบุรี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นเขื่อนน้ำล้น แต่ปริมาณน้ำที่ปล่อยมาทำให้แก่งคุดคู้แห้งขอดจนเห็นเกาะแก่งโผล่ขึ้นมา จนทำให้เสียผลประโยชน์ไปเป็นล้าน ซึ่งเคยมีรายได้รายรับ GDP สูง จากนั้นมันก็หายไป ชาวบ้านที่ทำประมง และการท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน เคยร้องไปถึงจีน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างไร หน่วยงานของรัฐก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นเขื่อนที่สร้างอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านชาวบ้านต้องยอมรับสภาพ ต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ ชาวประมงและชาวบ้านต่อสู้กันมาตลอด ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเกิดขึ้น อ้างว่ามันเกิดขึ้นอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านไม่ใช่พื้นที่ของเรา และไม่มีอำนาจทำอะไร หน่วยงานที่เขาสร้างเขื่อนไชยะบุรีหรือประเทศเพื่อนบ้านไม่เคยมาพบชาวบ้านและชี้แจง มีแต่ภาครัฐจัดประชุมหลายครั้งสุดท้ายก็เงียบหายไป

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้